เปรียบเทียบสเปค Galaxy S4 vs Galaxy S3 มีอะไรใหม่บ้าง ?

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Samsung

           เปิดตัวกันไปเรียบร้อยกับ Samsung Galaxy S4  สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ตระกูล Galaxy รุ่นเรือธงปี 2013 จากซัมซุง ที่มาพร้อมตัวเครื่องบางกว่า เบากว่าและทรงพลังมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ซัมซุงยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ มาแบบชนิดที่ว่า ล่อตาล่อใจทำเอาสาวกซัมซุงหลาย ๆ คนถึงกับออกอาการอยากจะได้มาครอบครองโดยเร็ว และแน่นอนเมื่อมีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ออกมาตีตลาดแบบนี้ เราก็ไม่รอช้าที่จะนำสเปคมาเปรียบเทียบกันให้เห็นข้อแตกต่าง  

          วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำสมาร์ทโฟนสายเลือดเดียวกันทั้งสองรุ่นมาเปรียบเทียบสเปคให้เห็นกันชัด ๆ ระหว่างน้องใหม่ Samsung Galaxy S4 กับรุ่นพี่ Samsung Galaxy S3 มาเปรียบเทียบพร้อมกับชี้ให้เห็นจุดเด่นและข้อแตกต่างแบบชัดเจน ถ้าพร้อมแล้วมาติดตามกันเลย





ดีไซน์และขนาด, น้ำหนักตัวเครื่อง

          สำหรับด้านดีไซน์ของ Samsung Galaxy S4 ถือว่าไม่เปลี่ยนไปจากรุ่นเดิมมากนัก ยังคงเน้นดีไซน์ด้วยขอบโค้งมน โดยรูปทรงของ Galaxy S4 เหมือนกับจับเอา Galaxy S3 มาเพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้นและปรับเปลี่ยนตำแหน่งกล้องนิดหน่อย ตัวเครื่องมีขนาด 136.6 x 69.8 x 7.9 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 130 กรัม ส่วนทางด้านตัวเครื่องของ Galaxy S3 มีขนาด 136.6 x 70.6 x 8.6 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 133 กรัม ในข้อนี้ถือว่าในเรื่องความบางและน้ำหนักของตัวเครื่อง Galaxy S4 ได้รับชัยชนะไปอย่างเต็ม ๆ

หน้าจอและการแสดงผล

           Galaxy S4 มาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5 นิ้ว Full HD ความละเอียด 1,920 x 1,080 พิกเซล กระจก Gorilla Glass 3 และมีความหนาแน่นของพิกเซล 441PPI ส่วนทางด้าน Galaxy S3 มีหน้าจอขนาด 4.8 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด 1,280 x 720 พิกเซล กระจก Gorilla Glass 2 และมีความหนาแน่นของพิกเซล 306PPI ในส่วนนี้เรื่องของความละเอียดของหน้าจอถือว่า Galaxy S4 มีความละเอียดและชัดกว่า Galaxy S3



ด้านสเปคและคุณสมบัติอื่น ๆ

          สำหรับด้านสเปคต้องบอกว่า Samsung Galaxy S4 มาพร้อมกับความทรงพลังและโหดกว่าด้วยซีพียูสองตัวภายในเครื่องเดียว ใช้ซีพียู Samsung Exynos 5 Octa Quad-core A15 (1.6GHz) + Quad-core A7 (1.2GHz) รวมทั้งหมด 8 คอร์, แรม 2GB มีหน่วยความจำให้เลือก 3 ขนาด 16GB, 32GB และ 64GB และรองรับการเพิ่ม microSD สูงสุด 64GB มีกล้องถ่ายภาพด้านหลัง 13 ล้านพิกเซล และกล้องด้านหน้า 2 ล้านพิกเซล รองรับ NFC, Wi-Fi 802.11 a/ac/b/g/n, Bluetooth 4.0, 3G และ 4G LTE ทุกย่านความถี่ ใช้แบตเตอรี่ความจุ 2,600 mAh

          ทางด้าน Samsung Galaxy S3 ใช้ซีพียู Samsung Exynos 4 แบบ Quad-Core ความเร็ว 1.4GHz, แรม 1GB มีขนาดหน่วยความจำ 16GB, 32GB และรองรับการเพิ่ม microSD มีกล้องถ่ายภาพด้านหน้า 1.9 ล้านพิกเซล และกล้องด้านหลัง 8 ล้านพิกเซล รองรับ Wi-Fi a/b/g/n, Bluetooth 4.0 และ NFC รองรับ 3G ความถี่ 850/900/1900/2100 MHz และรุ่นที่รองรับเครือข่าย 4G LTE จะมีขายเฉพาะในบางประเทศเท่านั้น ใช้แบตเตอรี่ความจุ 2,100mAh

          ด้านสเปคและกล้องในข้อนี้ ถือว่าทางด้าน Galaxy S4 มีชัยเหนือ Galaxy S3 อย่างเห็นได้ชัด ทั้งซีพียูที่แรงกว่าเดิม กล้องที่มีความละเอียดเพิ่มขึ้น รวมไปถึงแบตเตอรี่ที่มีความจุเยอะกว่า และขนาดหน่วยความจำในตัวเครื่องที่มีถึง 64GB สำหรับใครที่เน้นเรื่องสเปคน่าจะถูกใจแน่นอน




ด้านซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ

           Samsung Galaxy S4 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 ครอบด้วย Touchwiz ส่วนด้านฟีเจอร์เรียกได้ว่าจัดมาแบบเต็ม ๆ เช่น Dual Camera ฟังก์ชั่นถ่ายรูปพร้อมกันทั้งกล้องหน้าและหลังโดยรวมกันเป็นรูปเดียวพร้อมเครื่องมือตกแต่งภาพ, Sound and Shot ฟังก์ชั่นที่สามารถถ่ายภาพพร้อมบันทึกคลิปเสียง, Drama Shot ฟังก์ชั่นจับภาพต่อเนื่องอย่างรวดเร็วและรวมเป็นภาพหนึ่งภาพ และที่เป็นไฮไลท์ของรุ่นนี้ฟีเจอร์ Smart Scroll ที่ช่วยให้สามารถเลื่อนหน้าจอเว็บเพจอัตโนมัติหากเอียงอุปกรณ์ในขณะที่มองหน้าจออยู่ และ Smart pause ที่ช่วยให้หยุดคลิปวิดีโออัตโนมัติเมื่อละสายตาจากหน้าจอ และสามารถเล่นต่อได้ทันทีเมื่อกลับมา (สามารถอ่านเต็ม ๆ คลิกที่นี่)

          ส่วนทางด้าน Galaxy S3 มาพร้อมระบบปฏิบัติการเริ่มต้น Android 4.0 (Ice Cream Sandwich) แต่สามารถอัพเกรดเป็น Android 4.1 Jelly bean ได้ ด้านซอฟต์แวร์ Galaxy S3 ที่เด่น ๆ เช่น ระบบการสั่งงานที่หลากหลายขึ้น เช่น S Voice ระบบสั่งงานด้วยเสียงที่รองรับทั้งสิ้น 8 ภาษา (คล้ายกับ Siri บน iPhone 4S), ระบบ Direct Call ที่จะเปลี่ยนจากส่งข้อความเป็นโทรหาทันทีที่ยกมือถือขึ้นแนบหู และ S Beam ระบบส่งข้อมูลผ่าน NFC ที่เหมือนกับ Android Beam แต่ทำร่วมกับระบบ Wi-Fi Direct ทำให้ส่งไฟล์ระหว่างเครื่องได้อย่างรวดเร็ว และระบบเซ็นเซอร์พิเศษตรวจจับลูกตา (Eye-tracking) ที่ใช้งานได้หลากหลาย เช่น ทำให้หน้าจอไม่ปิด เมื่อเรายังมองหน้าจออยู่ เป็นต้น (สามารถอ่านเต็ม ๆ คลิกที่นี่)

สรุปเลือกอะไรดี ?

           มาถึงตอนนี้หลายคนคงจะได้เห็นจุดเด่นและข้อแตกต่างระหว่างสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นนี้ไปแล้ว และเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงมีคำตอบอยู่ในใจแล้วแน่นอน หากคุณเป็นแฟนซัมซุงอยู่แล้วเชื่อว่าคงไม่ลังเลที่จะสัมผัสกับลูกเล่นใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามาอีกเพียบของ Samsung Galaxy S4 เมื่อเทียบกับ Galaxy S3 ทำให้ล้าหลังไปเลยทีเดียว ตอนนี้ก็เหลือแค่ลุ้นราคากับวันวางจำหน่ายในประเทศไทยว่าจะออกมาวันไหน โดยกำหนดวางจำหน่ายทั่วโลกประมาณสิ้นเดือนเมษายนที่จะถึงนี้