ASUS เปิดตัว ZenPad แท็บเล็ตใหม่แห่งยุค 3 รุ่น ได้แก่ ZenPad 7.0, ZenPad C 7.0 และ ZenPad S 8.0 แท็บเล็ตเครื่องแรกที่สามารถเปลี่ยนฝาหลังได้
หลังจากที่มีการเปิดตัว ZenPad ในงาน Computex ที่กรุงไทเป ประเทศไต้หวันไปตั้งแต่เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก็ถึงคราวที่ ZenPad จะมาเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีกำหนดเปิดตัว ณ โรงหนังที่มีความเป็นเอกลักษณ์ มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน ทั้งยังอยู่ในย่านใจกลางเมืองอย่างโรงหนังสกาล่า สยามสแควร์ ช่วงบ่ายวันอังคารที่ 11 สิงหาคม 2558
ในงานนี้ มร. เจฟฟ์ โล กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ออกมาแถลงถึงแท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุด “ZenPad” ในงานเปิดตัวรอบสื่อมวลชน ว่า “เอซุสต้องการจะรังสรรค์เทคโนโลยีที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด และเรามีทีมวิจัยและพัฒนา ช่วยกันสรรสร้างดีไซน์ที่เบาบาง มาพร้อมคุณภาพของทั้งภาพและเสียง เพื่อให้รองรับความบันเทิงเอ็นเตอร์เทนเม้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ ที่สำคัญยังสามารถปรับแต่งแท็บเล็ตเองด้วยเคสแบบต่าง ๆ นำมาซึ่งประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการใช้แท็บเล็ตและความหรูหราที่คุณสัมผัสได้อย่างแท้จริง”
จากนั้น คุณสนธิญา หนูจีนเส้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ประเทศไทย จำกัด ได้ขึ้นมาบนเวทีเพื่อยืนยันถึงมิตรภาพระหว่าง 2 บริษัทที่มีมาอย่างยาวนานถึงเกือบ 30 ปี “อินเทลและเอซุสได้จับมือกันอีกครั้งเพื่อแสดงศักยภาพของนวัตกรรมล้ำสมัยในแท็บเล็ตใหม่แห่งยุค เราภูมิใจที่ได้มอบประสบการณ์การใช้อุปกรณ์ดีไวซ์สุดพิเศษ ที่มาพร้อมหน่วยประมวลผลที่แรงและเร็วอย่าง Intel Atom x3 processor 64 บิท”
ลักษณะของ ZenPad ได้รับแรงบันดาลใจและปรัชญาในการออกแบบมาจากงานฝีมือที่ประณีตสวยงามและใช้งานได้หลายฟังก์ชั่น ด้วยลายเส้นที่สะอาดตาและลวดลายหนังที่มีผิวนูน ผนวกกับสไตล์ที่มีความพรีเมียม จากอุปกรณ์เสริมอย่างเช่นเมื่อใส่กับเคสเป็นกระเป๋าถือใบเล็ก ZenPad นับเป็นอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่มีรูปลักษณ์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตามหลักการออกแบบ กรอบโดยรอบทำให้ ZenPad ถือและจับได้สะดวก นอกจากนี้โครงเมทัลลิคที่เป็นเงายังเน้นให้มองเห็นชัดเจน
ด้วยหน่วยประมวลผล 64-bit quad-core Intel Atom x3 processor ทำให้ ZenPad ส่งมอบประสิทธิภาพความแรง เพื่อความราบลื่นของการใช้งานหลายๆ อย่าง รวมถึงการดูวิดีโอและเล่นเกม มีเทคโนโลยี PixelMaster ช่วยให้ภาพถ่าย วิดีโอ การถ่ายเซลฟี่ ออกมาดูดีในทุก ๆ กรณี รวมถึงมีเทคโนโลยีช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยออกมาสว่างชัดเจน
ZenPad มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lollipop และมีฟีเจอร์ ASUS ZenUI ที่ออกแบบมาใหม่เพื่อรองรับการใช้งาน user interface แอพพลิเคชั่นหน้าจอ ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ผสมผสานระหว่างความมีอิสระ (freedom) การเชื่อมต่อ (connection) และการแสดงออก (expression) จึงเป็น user interface แบบแรกในโลก ที่ให้คุณปรับแต่งได้เองอย่างเต็มที่ และยังออกแบบให้เรียบง่าย แสดงข้อมูลให้ง่ายต่อการอ่าน
ที่สุดแห่งความบันเทิงทั้งภาพและเสียง
ASUS ZenPad ได้รับการสรรค์สร้างขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์ที่สุดแห่งความบันเทิง โดยใน ZenPad แต่ละรุ่น จะเลือกใช้หน้าจอแสดงผล IPS HD ความละเอียดสูง โดยมีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องถึง 76.5% มาพร้อมฟีเจอร์ ASUS VisualMaster ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มสีสันและความสมจริง ประกอบด้วย ASUS Tru2Life และ ASUS TruVivid ที่เป็นการนำเทคโนโลยีประมวลผลภาพ ระดับเดียวกับที่ใช้ในโทรทัศน์ มาไว้บนแท็บเล็ตเป็นครั้งแรก ช่วยเพิ่มความสมจริง และเพิ่มมิติให้ภาพอีกระดับ
เทคโนโลยี ASUS Tru2Life จะใช้การวิเคราะห์แต่ละพิกเซลในภาพ ก่อนการแสดงผลจริง เพื่อนำมาปรับคอนทราสต์ และเพิ่มความคมชัดให้กับภาพ ทำให้ภาพที่ออกมาสมจริงกว่าที่เคย เผยให้เห็นทุกรายละเอียด ส่วนเทคโนโลยี ASUS TruVivid นั้น ช่วยเพิ่มความสด ความสว่าง และการตอบสนองต่อการสัมผัสให้ดียิ่งขึ้น
หน้าจอที่มีความสดสว่างมากขึ้นนี้ เกิดจากการเปลี่ยนจอแสดงผลแบบเดิมที่มีชั้นเลเยอร์ภายในถึง 6 ชั้น ได้แก่ กระจกปิดหน้าจอ ชั้นกาว 2 ชั้น ชั้นเซ็นเซอร์รับสัมผัสอีก 2 ชั้น และปิดด้วยช่องอากาศที่อยู่หน้าแผงจอ LCD ทั้งหมดนี้ถูกลดลงมาให้เหลือเพียง 2 ชั้น โดยใช้การบีบอัดแต่ละชั้นเข้ามาเพื่อขจัดช่องอากาศออกไป ส่งผลให้ภาพสามารถส่งจากจอขึ้นมาได้โดยตรง ทำให้ได้ภาพที่สว่างและมีสีสันที่สดใสมากขึ้น
นอกเหนือจากนั้นแล้ว ASUS ZenPad ยังเป็นแท็บเล็ตเครื่องแรกในโลกที่มาพร้อมระบบเสียง DTS-HD Premium Sound ซึ่งเมื่อใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี ASUS SonicMaster ก็ยิ่งทำให้ ZenPad สามารถส่งมอบพลังเสียงถึงขีดสุด โดยระบบเสียงนี้จะให้เสียงที่มีคุณภาพ เมื่อฟังตามสื่อมัลติมีเดียต่าง ๆ จะมีการเข้ารหัสเสียงด้วยระบบ DTS-HD และจะเปลี่ยนเสียงในระบบสเตอริโอให้เป็นระบบเสียงรอบทิศทาง เพื่อความสมจริงยิ่งขึ้น มอบประสบการณ์ความบันเทิงทั้งที่บ้านและทุก ๆ ที่ ด้วยระบบเสียง DTS-HD Premium Sound จะทำให้ผู้ใช้งานได้ฟังเสียงที่สมบูรณ์แบบรอบทิศทาง 360 องศา เมื่อใช้งานร่วมกับหูฟัง
ฟังก์ชั่นในการปรับเปลี่ยน
ASUS ZenPad เป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมการออกแบบที่ให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่ง แท็บเล็ตได้ด้วยฝาหลังที่สามารถถอดเปลี่ยนสลับได้ ซึ่งทำให้สามารถใช้งานฟีเจอร์เพิ่มเติมอื่น ๆ และเปลี่ยนสีเป็นสีอื่นได้
Audio Cover เป็นอุปกรณ์เสริมเพื่อความบันเทิง มอบประสบการณ์การฟังพลังเสียงกระหึ่ม ด้วยลำโพงแบบ 5.1 ราวกับฟังในโรงภาพยนตร์ มีลำโพงโดยรอบถึง 4 ตัว มีลำโพงตรงกลาง 1 ตัว ลำโพงซัพวูเฟอร์อีก 1 ตัว เพื่อเพิ่มอรรถรสในการดูวิดีโอหรือฟังเพลง Audio Cover นั้นสามารถปรับระดับความดังได้มากกว่าตัว ZenPad เอง ถึง 6 เท่าและสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 6 ชั่วโมง ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง Audio Cover ยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ใช้อีกหนึ่งระดับ ด้วยการมีส่วนที่สามารถตั้งได้ เพื่อการรับชมวิดีโอและการทำงานที่สะดวกยิ่งขึ้น
Power Case เป็นอุปกรณ์เสริม เพื่อเพิ่มระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้นได้สูงสุดถึง 15 ชั่วโมง จึงสามารถใช้งานได้ทั้งวัน หรือหากเดินทางไปต่างประเทศ และต้องการใช้งานระหว่างไฟล์ทก็ไม่เป็นปัญหา สำหรับการใช้งานก็สะดวกสบาย เพียงแค่ประกบเข้าไปกับ ZenPad และก็ไม่เพิ่มความหนาของเครื่องให้เทอะทะ ช่วยยืดระยะเวลาการใช้งาน และสะดวกกว่าการพกแบตเตอรี่สำรองและสายชาร์จอย่างที่คุ้นเคยกัน
Zen Case เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมที่ออกแบบมาสำหรับ ZenPad โดยเฉพาะ มีให้เลือกด้วยกัน 5 สี ไม่ว่าจะเป็นสีดำออบซิเดียน สีขาวมุก สีฟ้าอควา สีส้มสด และสีเงินเมทัลลิค ภายนอกบุด้วยพื้นผิวที่ให้สัมผัสแบบหนัง ซึ่งสามารถประกอบเข้ากับ ZenPad โดยยังคงความเพรียวบาง พกพาสะดวก
สำหรับ ZenPad ที่เปิดตัวในประเทศไทยมีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน เริ่มต้นที่ ASUS ZenPad C (Z170CG) ราคา 4,490 บาท ตามด้วย ASUS ZenPad 7.0 (Z370CG) ราคา 5,990 บาท และ ASUS ZenPad S 8.0 ราคา 10,990 บาท โดยจะเริ่มวางจำหน่ายช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้
world_id:55ccd2904d265a505e8b4585
world_id:55ccd2d84d265a874f8b4586
world_id:55ccd33a4d265a6c508b4582
world_id:55ccd2d84d265a874f8b4586
world_id:55ccd33a4d265a6c508b4582