เปรียบเทียบสเปค Galaxy Note 3 vs Galaxy Note 2 มีอะไรใหม่บ้าง ?

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Samsung

           คุ้มค่ากับการรอคอยสำหรับ Samsung Galaxy Note 3 สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ตระกูล Galaxy Note ที่เปิดตัวไปเรียบร้อยแล้ว โดยรุ่นใหม่มาพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องที่บางกว่า เบากว่าและทรงพลังมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ซัมซุงยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ใช้งานคู่กับ S Pen น่าสนใจขึ้นกว่าเดิมอีกหลายฟีเจอร์ และแน่นอนเมื่อมีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ออกมาตีตลาดแบบนี้ เราก็ไม่พลาดที่จะนำสเปครุ่นเก่ากับรุ่นใหม่มาเปรียบเทียบกันให้เห็นข้อแตกต่าง

          วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำสมาร์ทโฟนหน้าจอไซส์บิ๊กสายเลือดเดียวกันทั้งสองรุ่นมาเปรียบเทียบสเปคให้เห็นกันชัด ๆ ระหว่างน้องใหม่ Samsung Galaxy Note 3 กับรุ่นพี่ Samsung Galaxy Note 2 มาเปรียบเทียบพร้อมกับชี้ให้เห็นจุดเด่นและข้อแตกต่างแบบชัดเจน ถ้าพร้อมแล้วมาติดตามกันเลย



ดีไซน์และขนาด, น้ำหนักตัวเครื่อง

          อย่างที่บอกไว้ตอนต้น Samsung Galaxy Note 3 มาพร้อมดีไซน์ใหม่ของตัวเครื่องที่ได้รับอิทธิพลในการออกแบบมาจาก Galaxy S2 และ Galaxy S4 ทำให้ลักษณะตัวเครื่องของ Galaxy Note 3 ไม่ค่อยมีความโค้งมนเหมือนกับ Galaxy Note 2 แต่จะดูเป็นเหลี่ยมมากขึ้น ส่วนด้านหลังของตัวเครื่องจะเป็นหนังเทียม (Faux leather) ซึ่งช่วยให้ผิวสัมผัสของ ตัวเครื่องดีขึ้น ส่วนขอบของตัวเครื่องทำเป็นรอยเย็บ ด้านขนาดของตัวเครื่อง Galaxy Note 3 มีขนาด 152.4 x 78.7 x 8.4 มม. และน้ำหนัก 168 กรัม ส่วนทางด้าน Galaxy Note 2 มีขนาดตัวเครื่อง 151.1 x 80.5 x 9.4 มม. และน้ำหนัก 180 กรัม ในเรื่องความบางและน้ำหนักของตัวเครื่อง Galaxy Note 3 ได้รับชัยชนะไปอย่างเต็ม ๆ

หน้าจอและการแสดงผล

          Galaxy Note 3 มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว Full HD Super AMOLED ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (388PPI) ส่วนทางด้าน Galaxy Note 2 หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว HD Super AMOLED ความละเอียด 1280×720 พิกเซล (287PPI) ในส่วนนี้เรื่องของความละเอียดของหน้าจอถือว่า Galaxy Note 3 มีความละเอียดและชัดกว่า Galaxy Note 2 แน่นอน




ด้านสเปคและคุณสมบัติอื่น ๆ

          สำหรับด้านสเปคต้องบอกว่า Galaxy Note 3 มาพร้อมกับความทรงพลังและโหดกว่า โดยจะแบ่งการใช้ซีพียูตามโมเดลรุ่น ได้แก่ ซีพียู Exynos Octa 5420 ควอดคอร์ ความเร็ว 1.9GHz สำหรับรุ่น 3G และ ซีพียู Snapdragon 800 ควอดคอร์ ความเร็ว 2.3GHz สำหรับรุ่น 4G LTE และมีแรม 3GB, หน่วยความจำภายใน 32GB และ 64GB รองรับ microSD สูงสุดถึง 64 GB มีกล้องด้านหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED ส่วนกล้องด้านหน้า 2 ล้านพิกเซล ทั้งกล้องหน้าและหลังมีซอฟต์แวร์กันสั่นในตัว และรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูง 4K แบตเตอรี่ความจุ 3200mAh (คลิกดูสเปคแบบเต็ม ๆ ของ Galaxy Note 3)

          ทางด้าน Galaxy Note 2 ใช้ซีพียู Exynos 4 ความเร็ว 1.6GHz แบบ Quad-core, แรม 2GB มีหน่วยความจำภายใน 16/32/64GB และรองรับ microSD สูงสุดถึง 64 GB มีกล้องถ่ายภาพด้านหลัง 8 ล้านพิกเซล และกล้องด้านหน้า 1.9 ล้านพิกเซล รองรับ 3G และ 4G LTE ใช้แบตเตอรี่ 3100mAh (คลิกดูสเปคแบบเต็ม ๆ ของ Galaxy Note 2)

          ด้านสเปคและกล้องในข้อนี้ ถือว่าทางด้าน Galaxy Note 3 มีชัยเหนือ Galaxy Note 2 อย่างเห็นได้ชัด ทั้งซีพียูที่แรงกว่าเดิม สามารถเลือกรุ่นซีพียูตามเครือข่ายที่ต้องการใช้งานได้ ในส่วนของกล้องที่มีความละเอียดเพิ่มขึ้น และแบตเตอรี่ความจุเพิ่มขึ้น



ด้านซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ

          Galaxy Note 3 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 4.3 Jelly Bean ครอบด้วยอินเตอร์เฟซ Touchwiz ส่วนด้านฟีเจอร์เรียกได้ว่าจัดมาแบบเต็ม ๆ โดยเฉพาะฟีเจอร์ที่ใช้งานคู่กับปากกา S Pen เช่น Air Command รวม 5 ฟีเจอร์ของ S Pen มารวมไว้ที่เดียวกัน เมื่อจิ้มปากกาบนหน้าจอก็จะแสดงเมนู Action Memos, S Finder, Scrapbook และ Pen Windows เป็นต้น รวมถึงฟีเจอร์และแอพฯ อื่น ๆ ที่มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น เช่น new S Note มีการปรับปรุงอินเตอร์เฟซใหม่ใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิมและเชื่อมต่อกับบริการคลาวด์ได้ เช่น Evernote รวมถึงในส่วนของ new MultiWindows มีการปรับปรุงใหม่เช่นกัน โดยสามารถเปิดแอพฯ เดียวกันขึ้นมาสองหน้าจอจากนั้นสามารถคัดลอกข้อความจากหน้าจอหนึ่งไปยังอีกหน้าจอหนึ่งได้

          ส่วนทางด้าน Galaxy Note 2 มาพร้อมระบบปฏิบัติการเริ่มต้น Android 4.1 Jelly Bean แต่สามารถอัพเกรดเป็น Android 4.2 ได้ ฟีเจอร์และแอพฯ ที่ใช้งานร่วมกับ S Pen เช่น S Note, S Planner, Email with hand-writing integration, S Pen Keeper, Quick Command, Easy Clip, Photo Note, Paper Artist เป็นต้น ฟีเจอร์เด่น ๆ Air View ที่มาพร้อมกับความสามารถเมื่อผู้ใช้งานนำปากกาไปแตะใกล้ ๆ กับหน้าจอจะทำให้แสดงรูปภาพต่าง ๆ จากอัลบั้มรูปภาพ, วิดีโอและอีเมลได้โดยไม่จำเป็นต้องแตะเข้าไปดู

สรุปเลือกอะไรดี ?

          มาถึงตอนนี้หลายคนคงจะได้เห็นจุดเด่นและข้อแตกต่างระหว่างสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ (Phablet) ทั้งสองรุ่นนี้ไปแล้ว และเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงมีคำตอบอยู่ในใจแล้วแน่นอน หากคุณเป็นแฟนซัมซุงอยู่แล้วเชื่อว่าคงไม่ลังเลที่จะสัมผัสกับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่งานคู่กับ S Pen ได้เจ๋งกว่าเดิม รวมถึงสเปคที่แรงขึ้นของ Samsung Galaxy Note 3 เมื่อเทียบกับ Galaxy Note 2 แล้วเรียกได้ว่าปรับปรุงไปไกลพอสมควร ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนจอใหญ่ หน้าจอคมชัด สเปคแรง เชื่อว่าคงเลือกได้ไม่ยากแน่อน ส่วนตอนนี้ก็เหลือแค่ลุ้นราคากับวันวางจำหน่ายในประเทศไทยว่าจะออกมาวันไหน โดยกำหนดวางจำหน่ายทั่วโลกประมาณเดือนตุลาคมนี้